วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

กินแคบหมูอย่างไรไม่ให้อ้วน


 ในบรรดาอาหารเหนือทั้งหลาย แคบหมู และน้ำพริกหนุ่มคงจะเป็นอาหารจานเด็ดในขันโตกที่หลายๆคนคิดถึงมากที่สุด "108 เคล็ดกิน" เองก็นับรวมเอาเมนูนี้เป็นอาหารจานโปรดในดวงใจด้วยเหมือนกัน คงเพราะรสชาติความกรุบกรอบเค็มๆมันๆของแคบหมู ผสมกับน้ำพริกหนุ่มรสเผ็ดลิ้นแล้วก็เข้ากันเป็นอย่างดี แหม...ว่าแล้วก็หิวขึ้นมาทันทีเลยเชียว
     
       กินแคบหมูมาก็นาน แต่ก็ไม่เคยสนใจเลยว่าเเคบหมูที่ว่านี้คืออะไร และทำอย่างไรจึงออกมาเป็นของกินแสนอร่อยได้อย่างนี้ วันนี้ "108 เคล็ดกิน" เลยขอเขียนถึงแคบหมูเป็นความรู้เสียหน่อย
     
       แคบหมูนั้นถือเป็นอาหารพื้นบ้านของชาวเหนือมานานแล้ว การเอาหนังหมูมาทำเป็นแคบหมูนั้นถือเป็นการถนอมอาหารวิธีหนึ่ง ไม่น่าเชื่อว่าหนังหมูเหนียวๆ เมื่อกลายมาเป็นแคบหมูแล้วก็จะสามารถเคี้ยวได้กรอบกร้วมๆ ขนาดนี้ ขั้นตอนการทำแคบหมูนั้นดูแล้วก็ไม่ยาก แต่ก็ต้องอาศัยความชำนาญไม่ใช่น้อยจึงจะได้แคบหมูที่กรอบพอดี
     
       แม้จะเป็นเพียงหนังหมู แต่ในแคบหมูก็มีสารอาหารอยู่ไม่น้อย โดยในแคบหมู 100 กรัม จะให้พลังงาน 548 แคลอรี มีไขมัน 30 กรับ โปรตีน 65 กรัม แคลเซียม 17 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 40 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 2.0 มิลลิกรัม วิตามินบีหนึ่ง 0.29 มิลลิกรัม และวิตามินบีสอง 0.05 มิลลิกรัม สำหรับคนที่กลัวอ้วนก็ต้องกินแคบหมูแต่น้อย แล้วกินผักกับน้ำพริกให้มากๆ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แค่นี้ก็ไม่ต้องอดของอร่อยแล้วล่ะ

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

แคบหมู

แคบหมูเป็นอาหารพื้นบ้านของชาวไทยล้านนา รับประทานในชีวิตประจำวัน และเป็นส่วนประกอบ ที่สำคัญ ของอาหาร ที่ใช้ในการ ต้อนรับแขกที่สำคัญ เช่น งานประเพณีขันโตก เป็นต้น และยังเป็นของฝาก ที่มีคุณค่าทั้งผู้ให้และผู้รับ และเป็นผลผลิตจากการนำหนังหมูมาผ่านกรรมวิธีการทอดจนได้ลักษณะพองกรอบ มีกลิ่นหอม รสกลมกล่อม ใช้รับประทานเป็นอาหารประเภทเครื่องเคียงกับน้ำพริกเมืองเหนือและแกงคั่วต่าง ๆ

การทำแคบหมูเป็นวิธีการแปรรูปและถนอมอาหาร ที่เกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้านสืบทอดกันมาเป็นเวลาช้านาน แคบหมูนิยมใช้เป็นของฝากเมืองเหนือที่มีคุณค่า ทั้งผู้ให้และผู้รับ โดยมีคุณค่าทางโภชนาการ เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารครบถ้วน หากนำ แคบหมู มาประกอบอาหารชนิดต่าง ๆ การรับประทานแคบหมูนี้ นอกจากทำให้อาหารที่รับประทาน มีรสชาติ และเพิ่ม ความอร่อยแล้ว ร่างกายยังได้รับสารอาหารครบถ้วน ไม่ทำให้ เกิดโรคอ้วน หากรับประทานอาหารให้ถูกส่วน และออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ
เนื่องจากแคบหมูเป็นอาหาร ที่มีผู้นิยมรับประทานหลายรูปแบบ และที่สำคัญคือ เป็นอาหารที่ ใช้เป็นของฝากที่เป็นเอกลักษณ์เมืองเหนือ จึงเหมาะที่จะนำมา ประกอบอาชีพทำแคบหมูขายเป็นการสร้างรายได้ ซึ่งปัจจุบันก็มีธุรกิจขายแคบหมูเกิดขึ้นมากมาย ทั้งขายปลีกและขายส่ง การผลิตก็มีทั้งการผลิตในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หรืออุตสาหกรรมภายในครัวเรือน
แคบหมู เป็นวิธีการแปรรูป และถนอมอาหารอย่างหนึ่ง โดยนำหนังหมูมาผ่านกรรมวิธี การทอด จนได้ลักษณะ การพอง กรอบ แคบหมูจึงกลายเป็นอาหารสำเร็จรูปชนิดหนึ่ง
 ซึ่งต้องนำหนังหมูมาผ่านการทำให้พองตัวการบริโภคแคบหมู อาจทำได้หลายรูปแบบ เช่น ชาวไทยในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออาจนำมาบริโภคในรูปของ อาหารคาวโดยตรง ใช้เป็นเครื่องจิ้มกับน้ำพริกต่าง ๆ หรือรับประทานร่วมกับขนมจีนน้ำเงี้ยว ซึ่งเป็นอาหาร ท้องถิ่นของชาวไทยภาคเหนือ นอกจากนี้ ยังสามารถนำแคบหมูมาบริโภค เป็นกับแกล้มสำหรับเครื่องดื่ม ประเภทสุราหรือเบียร์การผลิตแคบหมูโดยทั่วไปจะเริ่มจากการเปลี่ยนคอลลาเจน (collagen) ซึ่งเป็นโปรตีน ส่วนใหญ่ในหนังหมู โดยเฉพาะบริเวณหนังชั้นใน (dermis หรือ corium) ให้เป็นเจลาติน (gelatin)ซึ่งเป็น โครงสร้าง ที่สามารถกักเก็บความชื้นเอาไว้ภายใน การเปลี่ยนคอลลาเจนเป็นเจลาตินนี้ จะต้องใช้ความร้อนชื้น (moist heat) เช่น การต้มหนังหมูในน้ำเดือดจนหนังหมูเหล่านั้นสุก ต่อมาจะต้องทำให้ผิวหน้าของหนังหมู เกิดความแข็ง (case hardening) ขึ้น โดยการเคี่ยว (rendering) หนังหมูในน้ำมันที่อุณหภูมิ ไม่สูงมากนัก